ประชาสัมพันธ์

หนุ่มอุตรดิตถ์ขับรถหลับในชนต้นไม้ดับคาซาก 1 เจ็บอีก 3



หนุ่มอุตรดิตถ์บึ่งรถจากระยองพาคนรู้จักมาเยี่ยมบ้านก่อนเที่ยวฉลองปีใหม่ต่อในภาคเหนือ เกิดหลับในเสียหลักตกถนนชนต้นไม้ เจ็บยกคัน-ดับคาซากรถ 1 ราย ด้าน ผบ.พล.ร.4 ออกตรวจจุดบริการประชาชนสี่แยกอินโดจีน ย้ำกลางวันต้องบริการ ปชช. แต่กลางคืนต้องจับคนเมา

วันนี้ (31 ธ.ค.) พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ ร้อยเวร สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ตกถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ หรือทางหลวงหมายเลข 11 ชนต้นไม้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บริเวณหลัก กม.ที่ 254 บ้านเขาน้ำสุด หมู่ 6 ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวัดโบสถ์ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า Avanza สีบรอนซ์ ทะเบียน กต 1528 ระยอง ตกร่องริมถนนขาขึ้น สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถ 1 ราย อายุประมาณ 14-16 ปี และผู้บาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายกิตติ จันทร์ชำนิ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ และ น.ส.ละมัย แปงแก้ว อายุ 47 ปี กับ ด.ญ.ก้องนภา วิสุทธิแพทย์ อายุ 9 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/7 หมู่ 7 ต.เกาะจันทร์ กิ่งอำเภอเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.วัดโบสถ์ ก่อนส่งต่อโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาให้แพทย์และตำรวจชันสูตรศพ

สอบถาม น.ส.ละมัย ผู้บาดเจ็บทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.ระยอง เพื่อไปเที่ยวบ้านของนายกิตติที่เป็นคนรู้จักกัน ก่อนไปเที่ยวจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือ โดยนายกิตติเป็นคนขับ มีผู้ตายนั่งคู่ด้านหน้ามาด้วย ส่วนตัว น.ส.ละมัย และ ด.ญ.ก้องนภา บุตรสาว นั่งเบาะด้านหลัง ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงคาดว่านายกิตติจะหลับในทำให้รถเสียหลักตกถนนชนต้นไม้ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว



ด้าน พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 กล่าวระหว่างออกตรวจจุดบริการประชาชน ณ สี่แยกอินโดจีน ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ว่าจุดบริการประชาชนในห้วงกลางวัน จะต้องเป็นหน่วยบริการผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนกลางค่ำคืน คือ จุดตรวจ จับผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราแล้วขับรถ จะต้องควบคุม และยึดรถไว้ ไม่ให้ขับขี่ระหว่างเมาสุรา ช่วงนี้แม้ว่าทางการเข้มงวดแล้วก็ยังพบว่ามีอุบัติเหตุสูงเฉลี่ยวันละ 10 รายขึ้นไป ดังนั้นจะต้องเพิ่มจุดตรวจ เพิ่มวิธีการปฏิบัติ และเคลื่อนย้ายจุดตรวจเพื่อป้องกันและป้องปราม และเพิ่มจุดตรวจถนนสายรอง เพิ่มมาตรการป้องกันอุบติเหตุระหว่างอำเภอบริเวณถนนสายรองที่คาดว่ามีจุดเสี่ยง เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก โดยคณะทำงานระดับจังหวัดพิษณุโลกจะมีประชุมทุกวันเพื่อรายงานผลช่วง 7 วันอันตราย

“ส่วนกรณีคนเมาเข็นรถหนีด่าน ยืนยันว่าให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถได้เลย ให้ถือว่าคนขับไม่อยู่ในสภาพที่ขับรถได้”


ที่มา : ผู้จัดการ

pondee.sukasit


แท๊ก :

0 Comments