ประชาสัมพันธ์

7 อันดับ ยุคทะเลแห่งความตาย ในยุคดึกดำบรรพ์

ในยุคปัจจุบันการดำน้ำในทะเลเปิดบางแห่งอาจนำมาซึ่งความตายเพราะถูกฉลามเพชฌฆาตแห่งท้องทะเลกัดกิน แต่ในยุคดึกดำบรรพ์ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของทะเลล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้น เพราะมีสัตว์ทะเลนักล่าที่ดุร้ายอยู่ทั่วไป

นักวิทยาศาสตร์ได้จัดอันดับทะเลแห่งความตายในยุคต่าง ๆ ไว้ 7 อันดับ มาดูกันว่ามียุคใดบ้าง



ในภาพ
1. โมซาซอร์ 2. ลีโอพลูโรดอน 3. เมกาโลดอน 4. บาซิโลซอรัส 5. ดังก์ลีโอสตีอัส 6. ซิมโบสปอนไดลัส 7. ออร์โธโคน






เริ่มกันที่

อันดับ 7 ยุคออร์โดวิเชียน (Ordovician Period)
ยุคออร์โดวิเชียน (490 - 443 ล้านปีก่อน) ยุคนี้ 1 วันของโลกเท่ากับ 21 ชั่วโมง ผืนแผ่นดินยังอยู่ในสภาพแห้งแล้ง มีพืชเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น และไม่มีสัตว์บกอยู่เลย ทว่าในท้องทะเลกลับเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิด แมลงป่องทะเลได้ชื่อว่าเป็นนักล่าในยุคนั้น แต่พวกมันก็ยังตกเป็นเหยื่อของออร์โธโคน ซึ่งเป็นเจ้าแห่งความตายในท้องทะเลในยุคนี้อย่างแท้จ ริง

ออร์โธโคนมีขนาดมหึมารูปร่างคล้ายปลาหมึก ทว่าลำตัวแหลมเหมือนกรวยและมีเปลือกแข็งเหมือนเปลือก หอย มันจะใช้หนวดจับแมลงป่องทะเลและบดเคี้ยวเหยื่อด้วยจง อยปากที่ทรงพลัง



อันดับ 6 ยุคไทรแอสสิค (Triassic Period)
ยุคไทรแอสสิค (248 - 206 ล้านปีก่อน) เป็นยุคที่ไดโนเสาร์บนผืนแผ่นดินกำลังวิวัฒนาการอยู่ แต่ไดโนเสาร์ในยุคนี้ยังมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบก ับไดโนเสาร์ในยุคจูราสสิค และเช่นเดียวกับยุคออร์โดวิเชียน ท้องทะเลในยุคไทรแอสสิกเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลและนักล่า นักล่าที่รู้จักกันดีคือ สัตว์เลื้อยคลานอย่างเช่น กิ้งก่า นอโธซอร์ แต่นักล่าที่ร้ายที่สุดในยุคนี้ก็คือ ซิมโบสปอนไดลัส สัตว์ทะเลลำตัวยาว 10 เมตร รูปร่างคล้ายปลาโลมา แต่ไม่มีกระโดงและหางยาว ปลายหางคล้ายหางของปลาไหลทะเล
หัวของซิมโบสปอนไดลัส ยาวถึง 1 เมตร ฟันของมันแหลมคมจนสามารถฉีกเนื้อกิ้งก่าทะเลขนาดใหญ่ ได้เป็นชิ้นๆ แต่อาหารที่มันชื่นชอบไม่ใช่กิ้งก่าทะเลแต่กลับเป็นปลา



อันดับ 5 ยุคดิโวเนียน (Devonian Period)
ยุคดิโวเนียน (417 - 354ล้านปีก่อน) หรืออีกชื่อหนึ่งว่ายุคแห่งปลา (Age of Fish) เป็นยุคที่ผืนแผ่นดินมีต้นไม้ปกคลุมบ้างแล้ว บรรพบุรุษของสัตว์เลื้อยคลานได้เริ่มวิวัฒนาการในปลา ยยุคนี้ นักล่าในท้องทะเลในยุคนี้คือฉลามชนิดต่างๆ อาทิเช่น สเตธาแคนทัส ฉลามซึ่งมีกระโดงคล้ายทั่งตีเหล็ก แต่ฉลามเจ้าแห่งมหาสมุทรคือ ดังก์ลีโอสตีอัส ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด

ดังก์ลีโอสตีอัสมีฟันแหลมคมและมีเกราะหุ้มลำตัว มันจะสวาปามสัตว์ทะเลไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็นปลาธรรมดาหรือปลาฉลาม หรือแม้กระทั่งพวกเดียวกันเองด้วย



อันดับ 4 ยุคพาลีโอจีน (Paleogene Period)
ทะเลแห่งความตายในยุคพาลีโอจีน (65 - 23 ล้านปีก่อน) อยู่ใน จุลยุค อีโอซีน (Eocene Epoch) ซึ่งเป็นจุลยุคที่สองของยุคพาลีโอจีน นักล่าเจ้าแห่งความตายคือ วาฬบาซิโลซอรัส วาฬดึกดำบรรพ์ซึ่งมีชีวิตอยู่ในระหว่าง35-40 ล้านปีก่อน อสูรร้ายใต้สมุทรตัวนี้มีลำตัวยาวถึง 40-70 ฟุต แต่รูปร่างหน้าตาของมันไม่เหมือนวาฬในปัจจุบันเลย แต่คล้ายงูทะเลยักษ์มากกว่า

หัวของบาซิโลซอรัสยาวประมาณ 5 ฟุต ขากรรไกรมีฟันสองชุด ฟันแถวหน้ามีรูปทรงคล้ายกรวยใช้สำหรับจับเหยื่อ ส่วนฟันแถวหลังมีรูปทรงสามเหลี่ยมใช้สำหรับเคี้ยว ลักษณะของฟันบ่งชี้ว่ามันเป็นสัตว์ทะเลที่กินปลาและป ลาหมึกเป็นอาหาร



อันดับ 3 ยุคนีโอจีน (Neogene Period)
ทะเลแห่งความตายในยุคนีโอจีน (23-1.81 ล้านปีก่อน) อยู่ในจุลยุคไพลโอซีน (Pliocene epoch) จุลยุคที่สองของยุคนีโอจีน
ในจุลยุคไพลโอซีน บริเวณชายฝั่งของประเทศเปรูเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง แต่ปลอดภัย แมวน้ำนอนผึ่งแดดอยู่ตามโขดหิน ทว่าห่างออกไปในทะเลกลับอันตรายสุดสุด เพราะมีนักล่าที่ดุร้ายซึ่งเป็นญาติของฉลามขาวในปัจจ ุบัน มันคือ เมกาโลดอน ฉลามยักษ์ขนาดใหญ่กว่าฉลามขาวราว 2เท่า

เมกาโลดอนมีขากรรไกรขนาดใหญ่กว่า 2 เมตร ฟันแต่ละซี่แหลมคมยาว 21 เซนติเมตร พวกมันอาศัยอยู่ในทะเลเปิด ยกเว้นตัวที่มีอายุน้อยจะอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง เมกาโลดอนว่ายน้ำได้รวดเร็วและจะล่าเหยื่อบริเวณก้นท ะเล อาหารที่มันชื่นชอบคือ วาฬและแมวน้ำ รวมทั้งโอโดบีโนเซทอป สัตว์ทะเลที่มีรูปร่างผสมระหว่างวอลลัซกับปลาพะยูนด้วย




เมกาโลดอน หรือ The Great White Shark
มันเป็นบรรพบุรุษของฉลามในยุคโบราณครับโดยมันปกครองท้องทะเลมาเมื่อประมาณกว่า 25 ล้านปี (ยุคไมโอซีน) ล่วงมาแล้ว เป็นจ้าวแห่งมหาสมุทรขนาดยักษ์ใหญ่ บางคนถึงกับขนานนามมันว่าเป็น Gigantic Shark อีกตะหาก เหตุจากขนาดที่ไม่ธรรมดาและความยาวลำตัวจากหัวถึงหางประมาณ 50-100 ฟุต หรือประมาณ 16-31 เมตร เป็นไงครับขนาดของมัน

มันเป็นบรรพบุรุษของฉลามในยุคโบราณครับโดยมันปกครองท้องทะเลมาเมื่อประมาณกว่า 25 ล้านปี (ยุคไมโอซีน) ล่วงมาแล้ว เป็นจ้าวแห่งมหาสมุทรขนาดยักษ์ใหญ่ บางคนถึงกับขนานนามมันว่าเป็น Gigantic Shark อีกตะหาก เหตุจากขนาดที่ไม่ธรรมดาและความยาวลำตัวจากหัวถึงหางประมาณ 50-100 ฟุต หรือประมาณ 16-31 เมตร เป็นไงครับขนาดของมัน


ภาพเปรียบเทียบขนาดเจ้ายักษ์เมกาโลดอน ฉลามขาว ฉลามบาสกิ้งและมนุษย์คับ คนละไซต์กันเลย


แต่ดูจากยุคที่มันอยู่แล้วเนี่ยคาดว่าปัจจุบันนี้มันน่าจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้วซินะครับ แต่ก็ไม่แน่นา เพราะมีรายงานการพบเห็นฉลามขาวยักษ์ในปี ค.ศ. 1918 โดยชาวประมงที่พบเห็นฉลามตัวนี้เข้า เรื่องพิศวงที่ตามมาก็คือจากคำบอกเล่าของชาวประมงที่บังเอิญเห็นมันเข้านั้นกล่าวว่ามันมีความยาวประมาณ 115 ฟุต จากหัวถึงหาง หุ หุ ใหญ่กว่าขนาดที่เคยประมาณกันไว้เสียอีก และแน่นอนครับ ไม่เหมือนฉลามตัวไหนหรือพันธุ์ไหนที่เคยเห็นมาก่อนเลย น่าสนใจใช่มั๊ยละครับ

นักสมุทรศาสตร์ยังเคยมีการประมาณเอาไว้ด้วยนะครับว่าในปัจจุบันยังมีสัตว์ในท้องทะเลที่เรายังไม่รู้จักอีกอย่างน้อยกว่า 50,000 สายพันธุ์ แน่นอนครับว่ารวมเอาชนิดของปลาฉลามเข้าไปด้วย อย่างเช่นฉลามบาสกิ้ง (Basking Shark) หรือฉลามเมกาเมาทธ์ (MegaMouth Shark) ก็ยังเพิ่งมามีการค้นพบเอาในช่วงหลังๆ ของศตวรรษนี้เลยใช่มั๊ยครับ

การที่เมกาโลดอนจะรอดมาได้ 25 ล้านปีก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร (หรือแปลกหว่า ?) จากท้องทะเลที่โอบอุ้มชีวิตในทะเลทั้งมวล ท้องทะเลที่ไม่เคยแห้งเหือด ท้องทะเลที่เป็นสวรรค์สำหรับชีวิตทางทะเล ก็น่าจะพอเป็นไปได้น่ะ
เอ้า! มาต่อกันต่อเลยดีกว่าครับ นักวิทยาศาสตร์และนักสมุทรศาสตร์เค้าว่ากันว่าในตอนนี้น่ะ ก็ยังมีเจ้าเมกาโลดอนอาศัยอยู่ร่วมโลกกับเราด้วย ไม่ได้สูญพันธุ์หรือหายไปไหนหรอกครับ แต่ว่ามันอยู่ในทะเลที่ลึกเอามากๆ เลยน่ะซี และมันอาจจะกินปลาหมึกยักษ์เป็นอาหารแบบเดียวกันกับปลาวาฬสเปิร์มก็เป็นได้ หรือไม่ก็ปลาวาฬสเปิร์มเองนั่นแหละที่อาจจะเป็นอาหารของมันเอา อิอิ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เลยมีการตั้งโปรเจ็คทีมขึ้นมาเพื่อการค้นหาและทำวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานการมีอยู่ของมัน แต่ก็ยังไม่ได้หลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรมากมายนักหรอกครับ จะมีก็แต่ซากฟอสซิลที่ขุดพบกันเท่านั้น




อันดับ 2 ยุคจูราสสิค (Jurassic Period)
ท้องทะเลในยุคจูราสสิค (200-146 ล้านปีก่อน) มีฉลามนักล่าหลายชนิด อย่างเช่น ฉลามไฮโบดัส นอกจากนั้นยังมีจระเข้ทะเลเมทริโอรินซัสด้วย แต่นักล่าทั้งสองชนิดก็ยังเทียบไม่ได้กับ ลีโอพลูโรดอน
นักล่าขนาดใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรเท่าที่โลกเคยมีมาซึ่ งมีชีวิตอยู่ในกลางยุคจูราสสิค ประมาณ 160-155 ล้านปีก่อน

ลีโอพลูโรดอนเป็นสัตว์ทะเลในตระกูลสัตว์เลื้อยคลานที ่เรียกกันว่า ไพลโอซอร์ ลำตัวของมันยาวถึง 25 เมตร จุดเด่นของมันคือจมูกที่สามารถดมกลิ่นเหยื่อได้ในระย ะไกล เหยื่อของมันคือจระเข้ทะเล ปลาขนาดใหญ่ และรวมทั้งไพลโอซอร์ด้วย




อันดับ 1 ยุคครีเตรเชียส (Creataceous Period)
สุดยอดแห่งทะเลแห่งความตายคือทะเลในยุคครีเตรเชียสหร ือยุคไดโนเสาร์ (146-65 ล้านปีก่อน) เพราะเต็มไปด้วยกิ้งก่าทะเล "โมซาซอร์" หลายชนิดซึ่งล้วนแล้วแต่ดุร้ายจนได้รับฉายาว่า "ที-เร็กแห่งมหาสมุทร"
แม้แต่นกเฮสเพอร์โรนิสก็ยังไม่พ้นจากความตายจากฝีมือ ของฮาลิซอรัส โมซาซอร์ขนาดเล็ก

โมซาซอส์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนี้คือ ไฮโนซอรัส มีลำตัวยาวถึง 17 เมตร นอกจากนั้นยังมีอีลาสโมซอรัส สัตว์ทะเลในตระกูลเพลซิโอซอร์ซึ่งมีลำตัวยาว 15 เมตร เป็นนักล่าปลาตัวฉกาจในยุคนี้ด้วย
ยุคครีเตรเชียสจึงเป็นยุคของนักล่าที่มีทั้ง ที-เร็ก บนบกและที-เร็กในมหาสมุทร ซึ่งก็คือกิ้งก่าบกที่อพยพลงไปอยู่ในทะเลนั่นเอง







และยุคปัจจุบัน สัตว์นักล่าแห่งท้องทะเล

ฉลามขาว

ฉลามขาวสุดยอดปลานักล่า มีอายุยืนถึง 100 ปี มีฟัน 3000 ซี่ ความน่ากลัวของฉลามขาวมีอยู่ในความคิดของมนุษย์ มานับตั้งแต่มนุษย์รู้จักท้องทะเลก็ว่าได้ ในสมัยดึกดำบรรพ์ ชาวเกาะหลายเผ่า นับถือปลาฉลามในฐานะตัวแทนเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ในหมู่เกาะฮาวาย เจ้าผู้ครองเกาะในสมัยโบราณนิยม ให้นักรบของตนทดสอบความกล้าหาญ โดยการต่อสู้กับปลาฉลาม คล้ายๆ กับที่จักรพรรดิโรมันนิยมให้ทาสมาต่อสู้กับสิงโตในสังเวียนโคลอสเซียม ว่ากันว่าฉลามขาวสืบทอดเผ่าพันธุ์มาจากปลากระดูกอ่อนยุคดึกดำบรรพ์ โดยมีบรรพบุรุษร่วมกับกับปลาฉนาก ปลาโรนัน และปลากระเบน

โดยปกติฉลามขาวมักจะโจมตีเหยื่อที่อยู่บริเวณผิวน้ำ และนี่เองเป็นสาเหตุที่ปลาฉลามขาวโจมตีมนุษย์ที่ว่ายน้ำอยู่ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของมนุษย์บนผิวน้ำนั้น ทำให้พวกมันเข้าใจว่าเป็นสิงโตทะเลอาหารหลักของมัน ทุกครั้งที่ฉลามขาวกัดเหยื่อ มันจะปกป้องดวงตาของมันโดยการกลับลูกตาไว้ด้านใน ทำให้เห็นลูกตาเป็นสีดำ ฉลามขาวมีประสาทรับกลิ่นที่ไวมาก ทันทีที่ได้กลิ่นคาวเลือด พวกมันจะมา และโจมตีเหยื่อซึ่งไม่เว้นแม้กระทั่งพวกเดียวกันที่บาดเจ็บ



สเกล เปรียบเทียบขนาด ของ เมกาโลดอน, ฉลามขาว และ มนุษย์ ครับ

Phitsanuloklife


แท๊ก :

6 Comments

  1. นนท์เอง 20 September, 2013, 21:00
     เฉยๆอ่ะ55555
  2. Grace 20 September, 2013, 21:00
      สวดยอดดดดดดดดหาลีโอพลูโรดอนตั้งนาน
  3. saito 20 September, 2013, 21:00
     สุดยอด
  4. Phitsanuloklife 20 September, 2013, 21:00
    เหนื่อยกับการลบสแปม เหมือนกัน
  5. bigga 20 September, 2013, 21:00
    น่ากลัวจัง
  6. mildko 20 September, 2013, 21:00
    Oooooo